QZGS

[Fic QZGS] – The rainy day, when I met a cat 2 (ส่านซิว)

[AU Fic 全职高手] – The rainy day, when I met a cat 2 (ส่านซิว)
ชื่อไทย : อย่าปล่อยบอสไว้กับแมว
#ส่านซิว #CEOทาสแมว
Genre : slice of life,fantasy,romantic
note : คาดว่าทุกคนคงลืมเรื่องนี้แล้ว คำเตือน มีตัวละครที่ยังไม่ปรากฏในเล่มปัจจุบัน

ตอนก่อนหน้า : 1

 

 

 

 

– กฏของการเป็นทาสแมวข้อที่ 1 : ใส่ใจดูแลเรื่องอาหารการกินอยู่เสมอ –

 

 

 

 

ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ

 

นาฬิกาดิจิตอลส่งเสียงดังน่ารำคาญในยามเช้า ปลุกชายหนุ่มที่หลับไหลให้ฟื้นจากห้วงนิทรา ซูมู่ชิวลืมตาขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลไร้แววง่วงงุน ชายหนุ่มลุกขึ้นเสยผมด้านหน้าที่ปรกดวงตา มือที่ปัดป่ายไปด้านข้างด้วยความเคยชินปะทะกับกลุ่มขนนุ่มนิ่ม

 

ที่แท้ก็เป็นสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ที่เขาพึ่งเก็บมาเลี้ยงเมื่อวานนั่นเอง

 

แมวดำยังคงนอนขดตัวอยู่ด้านข้างอย่างสบายอารมณ์ อาซิวหลับตาพริ้ม เสียงครืดคราดในลำคอส่งผ่านปลายนิ้วมือของชายหนุ่ม รอยยิ้มถูกวาดบนริมฝีปาก เขาลูบหัวมันสองสามที ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง

 

 

“ตื่นแล้วหรือคะ”

 

เสียงกังวาลใสแจ๋วดังออกมาจากในครัวเมื่อเขาเปิดประตูออกมา ซูมู่ชิวขานรับ เห็นแผ่นหลังเล็กๆ กำลังยุ่งวุ่นวายกับการเตรียมอาหาร ก็เอ่ยไถ่ถามน้องสาวเพียงคนเดียวของตน

 

“เมื่อคืนกลับมากี่โมง”

 

ซูมู่เฉิงหัวเราะ ด้วยรู้นิสัยขี้เป็นห่วงของพี่ชายตนเองดี จึงหันกลับมายิ้มให้

 

“กลับมาตอนห้าทุ่มค่ะ”

 

ซูมู่ชิวพยักหน้า นั่งลงที่โต๊ะอาหาร หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านหัวข้อข่าวที่น่าสนใจยามเช้า ไม่ถึงห้านาทีโจ๊กร้อนๆ หอมกรุ่นก็ถูกวางลงตรงหน้าของเขา

 

“ฝีมือทำอาหารของเธอนับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ เลย!” ซูมู่ชิวตักชิมไปคำนึงแล้วถอดถอนใจ น้องสาวเขานับวันจะยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

 

ซูมู่เฉิงหัวเราะ ตักโจ๊กส่วนของตัวเองแล้วไปนั่งลงตรงข้ามกับพี่ชายของตน “ก็ดีแล้วนี่คะ ฉันจะได้ทำอาหารให้พี่กินบ่อยๆ ไง!”

 

ซูมู่ชิวส่ายหน้า ทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับถูกเสียงร้องเบาๆ ที่ด้านล่างดึงความสนใจไปเสียก่อน

 

“พี่เลี้ยงแมวด้วย!” ซูมู่เฉิงร้องวี๊ดว๊าย ตาเป็นประกายเมื่อเห็นเจ้าเหมียวน้อยน่ารักเดินนวยนาดอยู่ใต้โต๊ะ จากนั้นเจ้าแมวดำก็กระโดดขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ข้างพี่ชายตน แต่เนื่องจากเก้าอี้เป็นเก้าอี้สำหรับคน ไม่ใช่สำหรับแมว มันจึงโผล่มาได้แค่ส่วนหัวเท่านั้น เรียกสายตาเอ็นดูจากซูมู่เฉิงมากขึ้นไปอีก

 

ซูมู่ชิวทำหน้าแปลกประหลาด เจ้าแมวดำนี่จะแสนรู้ไปหน่อยหรือไม่?

 

“พี่พึ่งเก็บมันกลับมาเมื่อวานน่ะ” เห็นซูมู่เฉิงเดินไปเล่นกับแมวอย่างกระตือรือร้น เขาจึงเอ่ยขึ้น “ชื่ออาซิว”

“น่ารักมากเลย” สาวน้อยก็ยังเป็นสาวน้อยอยู่วันยังค่ำ เธอเกาคางให้อาซิวเบาๆ เจ้าแมวดำหลับตาพริ้ม อยู่นิ่งๆ ให้หญิงสาวเล่นกับมันตามสบาย

 

หลังจากซูมู่เฉิงสังเกตเห็นอาหารแมวที่วางอยู่บนชั้น จึงลุกขึ้นเพื่อไปหยิบอาหารมาเทให้สมาชิกใหม่ แต่กลับโดนซูมู่ชิวขัดก่อน

 

“เอาแบบที่เธอทำให้พี่นั่นแหละ”

 

ซูมู่เฉิงทำหน้าแปลกใจ แต่ก็เดินไปตักโจ๊กร้อนๆ มาวางไว้ให้อาซิว แมวดำชะเง้อคอมอง หญิงสาวชะงักไปก่อนหัวเราะ แล้วเอาเบาะรองนั่งมาให้อาซิว ทำให้เจ้าแมวสามารถกินอาหารได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

 

ซูมู่เฉิงกลับไปนั่งเดิม รออาซิวกินอาหารอย่างใจจดใจจ่อ อาซิวก้มลงกินอาหารไปคำหนึ่งแล้วรีบผละออกมา แล้วสองพี่น้องก็ได้เห็นของแปลก เช่นแมวทำหน้าเบี้ยวเป็นครั้งแรก

 

“เป็นอะไร ไม่อร่อย?” ซูมู่ชิวหรี่ตาใส่แมวดำที่เมินอาหารน้องสาวสุดรักสุดหวงของตน ซูมู่เฉิงมองๆ ดูครู่หนึ่งก็เหมือนนึกอะไรได้ กำมือทุบดังปุ

 

“ฉันเคยอ่านเจอว่าแมวไม่ชอบกินของร้อน” ซูมู่เฉิงเอ่ยกลั้วหัวเราะ “สงสัยจะลิ้นพองแล้วมั้งเนี่ย ฮ่ะๆ”

 

“อ้อ” ซูมู่ชิวเหงื่อตก เรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ต้องยกให้หญิงสาวจริงๆ

 

หลังจากรอจนโจ๊กหายร้อน สองพี่น้องก็เห็นแมวดำก้มลงไปกินอย่างเชื่องช้า ตลอดเวลาไม่มีโจ๊กหกออกมานอกชามเลยแม้แต่หยดเดียว ทำให้ซูมู่เฉิงมองด้วยความประหลาดใจ

 

วันนี้เป็นวันหยุด พี่น้องตระกูลซูจึงอยู่ติดบ้าน และได้เห็นพฤติกรรมหลายอย่างของอาซิว อาซิวมักจะไม่กวนพวกเขาก่อน ดูเหมือนจะชอบเดินเล่นไปเรื่อย และชอบนอนเป็นที่สุด

 

“อาซิวฉลาดมากๆ เลย” ซูมู่เฉิงชม ดูจะถูกใจสัตว์เลี้ยงตัวนี้เอามาก

 

แต่ซูมู่ชิวกลับกลุ้มใจเล็กน้อย

 

เขาคิดว่าอาซิวอาจมีเจ้าของแล้ว และบางทีคงพลัดหลงออกมาจากบ้าน ดูได้จากพฤติกรรมเป็นระเบียบของอาซิวที่เหมือนถูกฝึกมาอย่างดี พอเล่าความคิดให้น้องสาวของตนฟัง ซูมู่เฉิงก็เสนอง่ายๆ

 

“งั้นก็โพสต์ลงเน็ตก่อนสิคะ ถ้าไม่มีคนมาติดต่อ พวกเราก็รับอาซิวไว้เลยไง!”

 

ซูมู่ชิวเห็นด้วยกับน้องสาว หลังจากจัดการโพสต์รูปลงเน็ตเรียบร้อย ก็เห็นอาซิวนั่งทำหน้าตายอยู่ข้างจอ เหมือนมาดูว่าเขากำลังทำอะไร

 

ซูมู่ชิวหมันไส้กับท่าทางเหมือนเจ้านายของแมวนี่มาก จึงใช้นิ้วดีดปลายจมูกเล็กๆ นั่นเบาๆ อาซิวมองด้วยหน้าปลาตายเช่นเดิม ทำให้ซูมู่ชิวรู้สึกเหมือนกำลังถูกเจ้าแมวนี่หยามเหยียดทางสายตา

 

จากนั้น…ซีอีโอหนุ่มผู้โด่งดังก็ดึงแมวลงมาฟัดบนตักอย่างรวดเร็ว!

 

“ม้าว!”

 

อาซิวบิดตัวหลบไปมาบนตัก พยายามตะเกียกตะกายให้พ้นเงื้อมือมัจจุราจแต่ไม่อาจหนีไปได้จึงส่งเสียงร้องประท้วง รอจนซูมู่ชิวฟัดพุงแมวจนสาแก่ใจ ชายหนุ่มถึงได้ยอมปล่อยมือออกจากสัตว์เลี้ยงของตน

 

อาซิวที่เป็นอิสระรีบกระโดดแผล็วไปอยู่หลังซูมู่เฉิงที่เปิดประตูเข้ามาอย่างงุนงง เธอมองพี่ชายที่นั่งหน้านิ่งเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หญิงสาวอุ้มอาซิวขึ้นมาแล้วเดินเขาไปหาซูมู่ชิว โดยไม่สังเกตเลยว่าแมวในอ้อมอกตนมีท่าทางอยากจะหนีสุดชีวิต

 

“พี่คะ ไหนๆ วันนี้เราก็ว่าง ไปหาซื้อของให้อาซิวกันไหมคะ” ซูมู่เฉิงเอ่ยถามอย่างร่าเริง

 

“ซื้อของ? เอาสิ!” พิจารณาเพียงครู่เดียวซูมู่ชิวก็ตอบตกลง ทั้งคู่ถือเป็นมือใหม่ด้านการเลี้ยงแมวขนานแท้ ซูมู่ชิวใช้โน้ตบุ๊คเสิร์ชดูของจำเป็นต่างๆ ที่ต้องใช้ หลังจากให้ซูมู่เฉิงจดรายการทั้งหมดแล้ว ทั้งสองคนพ่วงด้วยแมวอีกหนึ่งตัวก็ขับรถตระเวนซื้อของกันอย่างสนุกสนาน

 

การพาอาซิวมาซื้อของครั้งนี้ก็ทำให้ซูมู่ชิวพบสิ่งแปลกใหม่อีกครั้ง

 

เมื่อเขาซื้อของที่อาซิวไม่ชอบ แมวดำจะเอาอุ้งเท้ามาตีเขาเบาๆ หนึ่งที คราแรกซูมู่ชิวไม่สนใจ จนโดนหลายครั้งเข้า ชายหนุ่มก็เริ่มเอะใจ จึงหยั่งเชิงโดยการเอาของไปเก็บไว้ที่เดิม แมวดำเห็นดังนั้นก็ร้องอย่างพึงพอใจ ส่วนของอีกหลายอย่างเขาก็ไม่รู้ว่าอาซิวชอบหรือไม่ เพราะหลังๆ มันนอนฟุบลงกับขาหน้าอย่างเกียจคร้าน ปล่อยให้พวกซูมู่ชิวเลือกซื้อของกันต่อไปอย่างไม่สนใจ

 

กลับมาถึงห้อง ซูมู่เฉิงปล่อยอาซิวที่อ้าปากหาวลงที่หน้าประตู พี่น้องตระกูลซูช่วยกันจัดข้าวของโดยมีอาซิวนั่งแกว่งหางอย่างสบายอารมณ์อยู่ข้างๆ

 

ซูมู่ชิวย้ายบ้านแมวใหม่เอี่ยมเข้าไปไว้ในห้องนอนของเขา ซูมู่เฉิงดูเหมือนอยากให้อาซิวเข้านอนกับตนบ้าง แต่ไม่ว่าจะร้องเรียกหรือหลอกล่ออย่างไรอาซิวก็ไม่ยอมเข้าไปให้ห้องเธอเด็ดขาด

 

“ท่าทางเขาจะชอบพี่นะคะ” ในที่สุดซูมู่เฉิงก็ยอมแพ้ กล่าวอย่างเสียดาย

 

 

หลังจากซูมู่ชิวอาบน้ำเสร็จก็นั่งลงที่โต๊ะทำงาน เปิดโน้ตบุ๊คเพื่อจัดการงานที่ค้างเอาไว้ บนบ่ากว้างมีผ้าขนหนูพาดอย่างลวกๆ ไม่ใส่ใจ ขณะตรวจงานก็นั่งเช็ดผมไปด้วย

 

ชายหนุ่มมองจอแสดงผลอย่างพึงพอใจ หุ้นในมือเขานั้นไม่เลวเลยทีเดียว ซูมู่ชิวคุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น กล่าวได้ว่าซูมู่ชิวมีสายตาที่ดี และมีมันสมองที่ดียิ่งกว่า ไม่เช่นนั้นลำพังเงินที่ได้จากธุรกิจของเขาคงไม่พอที่จะซื้อหุ้นของเจียซื่อมาได้มากขนาดนั้น

 

ซูมู่ชิวทำงานหนักตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นหน่อยก็เริ่มสนใจในวงการธุรกิจ แม้จะมีเงินเก็บที่ได้จากพ่อแม่ที่เสียชีวิตไป แต่เพราะมีน้องสาวที่ต้องเลี้ยงดูอีกหนึ่งคน ซูมู่ชิวจึงไม่กล้าที่จะใช้เงินฟุ่มเฟือย เขานำเงินออกมาลงทุนอย่างระมัดระวัง โชคดีที่ประสบผลสำเร็จ

 

 

ทั้งชีวิตของชายหนุ่มมีแต่เรื่องงานและน้องสาว ไม่เคยมีเรื่องความรักมารบกวนให้รำคาญใจ ก่อนหน้าก็มีคนเข้ามาบ้างเหมือนกัน แต่ซูมู่ชิวในตอนนั้นสนใจแต่เรื่องทำงานหาเงิน ไม่มีเวลาสนใจความรัก ส่วนช่วงหลังแม้มีเวลา แต่คนที่เข้ามาก็เพื่อหาผลประโยชน์ ซึ่งซูมู่ชิวไม่สนใจผู้หญิงประเภทนี้เลยสักนิด

 

ซูมู่ชิวนั่งเหม่อจนกระทั่งรู้สึกหนักๆ จึงตื่นจากภวังค์ มองแมวดำที่ร้องม้าวบนตักของตน ดวงตาสีอำพันต้องแสงจากโคมไฟ สะท้อนประกายประหลาดในยามราตรี

 

แมวตัวนี้ประหลาดมาก เพียงแค่มองตาก็ราวกับสามารถรับรู้ว่ามันรู้สึกแบบใด ราวกับเป็นมนุษย์ ซูมู่ชิวอาจจะดูเหมือนประสาทหลอนไปเอง แต่เขารู้สึกเช่นนี้จริงๆ

 

ซูมู่ชิวเกาที่คางและใบหูของอาซิวเบาๆ เจ้าแมวร้องเหมียว เผลอขยับเข้าซุกฝ่ามือของซูมู่ชิว ชายหนุ่มโดนดาเมจกระแทกเข้าเต็มๆ จนมือสั่นไปหมด แต่ก็ยังทำหน้านิ่งเสมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร

 

หลังจากเดินมาให้เขาปรนนิบัติจนพอใจแล้ว อาซิวก็กระโดดลงจากตัก เดินนวยนาดจากไป ซูมู่ชิวรู้สึกขำปนเอ็นดู จากนั้นก็กลับมาสนใจงานในเครื่องโน๊ตบุ๊คของตนเองต่อ

 

เวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่ ซูมู่ชิวก็ปิดเครื่อง บิดไล่ความเมื่อยขบ จากนั้นก็เห็นสิ่งมีชีวิตที่สมควรจะนอนอยู่ในบ้านแมวอันใหม่ กำลังนอนขดตัวอยู่บนเตียงเขาอีกครั้ง

 

ซูมู่ชิวมองแมวดำที่ยึดเตียงเขาไปครึ่งหนึ่งนอนอย่างสบายอกสบายใจแล้วส่ายหน้า เขาหัวเราะหึๆ ใช้นิ้วชี้เคาะลงไปบนหัวกลมๆ ของอาซิว จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนหลับไปด้วยกัน

 

 

 

 

 

 

 

TBC

 

หนทางการเปย์แมวของพี่มู่ยังอีกยาวไกล…

 

ใส่ความเห็น