QZGS

[Fic QZGS] – Sweetaholic II (ซุนเยี่ย)

Fic 全职高手 – Sweetaholic II (ซุนเสียง x เยี่ยซิว)
#ซุนเยี่ย
note : โหยหาาาาาาา ความรักความเมตตาาาาาาาา
note2 : เค้กเวิร์สจริงๆ นะ…

 

 

 

ครั้งแรกที่จูบ ต่างฝ่ายต่างเงอะงะจนน่าขัน

 

แต่พอมีครั้งแรก ครั้งที่สอง ที่สามก็ตามมา จนไม่รู้แล้วว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่

 

พอผละออกห่าง ซุนเสียงมักจะได้ยินเยี่ยชิวงึมงำว่ารสนม จากนั้นก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบอีกครั้ง

 

ตามจริงตัวเขาที่เป็นเค้กควรจะไม่ได้รับรสชาติใดๆ จากฟอร์ค แต่ยามที่แนบชิด ยามที่พัวพัน ซุนเสียงมักจะรู้สึกว่าเยี่ยชิวหวานมาก

 

และใช่ เขากำลังติดของหวาน

 

ของหวานที่มีชื่อว่าเยี่ยชิว

 

 

 

ซุนเสียงกำลังนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ของตนอยู่

 

โดยปกติแล้ว เยี่ยชิวจะส่ง QQ มาหาเขาอาทิตย์ละครั้ง แต่ไม่แน่นอนว่าจะเป็นวันไหน

 

เยี่ยชิวไม่เคยส่งข้อความมาหาเขาในศุกร์หรือวันหยุด วันที่เจ้าตัวส่งมาบ่อยๆ คือวันจันทร์หรืออังคารที่ลูกค้าค่อนข้างน้อย

 

ใกล้จะได้เวลาแล้ว…

 

สมาธิทั้งหมดของซุนเสียงอยู่ที่ตัวเลขดิจิตอลตรงมุมขวาล่างของหน้าจอ เมื่อเลขเก้าเปลี่ยนเป็นเลขศูนย์ ทันใดนั้นหน้าต่างโปรแกรม QQ ก็ปรากฏข้อความของผู้ที่เขารอคอยมาทั้งอาทิตย์

 

จวินม่อเซี่ยว : เกอหิวแล้ว

 

ซุนเสียงรัวความเร็วมือพิมพ์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว แต่พอจะกดส่งก็ชะงัก ปลายนิ้วนิ่งค้างอยู่บนแป้น

 

ถ้าเกิดตอบกลับไปทันที เยี่ยชิวก็รู้น่ะสิว่าเขาเฝ้าหน้าจออยู่ตลอด

 

ชายหนุ่มตัดสินใจรอ จวบจนเห็นว่าสมควรแก่เวลา จึงกดส่งข้อความที่พิมพ์เสร็จตั้งแต่ห้านาทีก่อนกลับไปให้เยี่ยชิว

 

อี๋เยี่ยจือชิว : ผมยังมีเทคนิคที่อยากเรียนจากคุณอีกนิดหน่อย ให้ผมไปหาเลยไหม?

 

ซุนเสียงถามแบบนี้เพราะทุกครั้งเขาจะเป็นฝ่ายไปรับเยี่ยชิวจากร้านเน็ตด้วยตัวเอง แม้เยี่ยชิวจะบอกปัดตลอด แต่พอเขายืนกรานมากๆ เข้า อีกฝ่ายก็ยอมปล่อยไปตามน้ำ

 

หลังจากเวลาผ่านไปพักหนึ่งก็ยังไม่มีข้อความจากเยี่ยชิว ปกติเยี่ยชิวไม่เคยตอบเขาช้าขนาดนี้ โดยเฉพาะเป็นเรื่องปากท้องด้วยแล้ว ซุนเสียงเริ่มกระวนกระวาย ไพล่คิดไปต่างๆ นาๆ ว่าเยี่ยชิวอาจกำลังติดธุระ ไม่ว่างมาตอบเขา หรืออาจจะโกรธที่เขาตอบช้าจนไม่อยากจะคุยด้วย?

 

อนิจจา ซุนเสียงลืมไปว่าช้าของเขาก็แค่ห้านาทีเท่านั้น คนอย่างเยี่ยชิวไม่มีวันคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแค่นี้ แต่ในหัวของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความคิดที่ว่าเยี่ยชิวจะโกรธเขาจนร้อนใจไปหมด กระบวนการคิดวิเคราะห์เสมือนหยุดทำงานชั่วคราว ชายหนุ่มตัดสินใจหยิบผ้าพันคอกับแว่นกันแดดมาสวม แล้วเดินข้ามไปยังอีกฟากของถนน

 

ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไป กวาดสายตามองทั่วร้าน ด้านหน้าเคาท์เตอร์ว่างเปล่า ไร้เงาของหญิงสาวที่ซุนเสียงมักจะเห็นเธอประจำอยู่กะนี้

 

“เสี่ยวเสียง?” เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นมาจากด้านข้าง ซุนเสียงรีบหันไปตามต้นเสียง คนในห้วงคำนึงใช้ดวงตาเฉื่อยชาเหมือนคนง่วงนอนมองเขา ในนั้นมีความประหลาดใจเล็กๆ แฝงอยู่ แขนสองข้างหอบกระป๋องเครื่องดื่มอยู่เต็มไปหมด

 

“อา…” ซุนเสียงกระชับอุปกรณ์ปลอมตัวของตนเอง มองอีกฝ่ายอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี

“รอเกอแปบนึงนะ เดี๋ยวเอาไปส่งลูกค้าก่อน”

 

ว่าแล้วเยี่ยชิวก็หายตัวไปอีกด้าน ซุนเสียงยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ที่เดิม สายตาจากรอบด้านทิ่มแทงจนรู้สึกอึดอัด ครู่หนึ่งเยี่ยชิวก็เดินกลับมา ซุนเสียงถอนหายใจเฮือก รู้สึกผ่อนคลายลงทันที

 

“วันนี้คงไปไม่ได้แล้วล่ะ คนที่ปกติเข้ากะนี้ไม่อยู่น่ะ เกอเลยต้องมาเข้าแทน” เยี่ยชิวเอนตัวพิงเคาท์เตอร์ด้วยท่าทางสบายๆ ซุนเสียงได้ยินก็หน้าร้อน รีบบอกปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

“ใครบอกว่าผมมาหาคุณ!”

 

เยี่ยชิวเลิกคิ้ว ไถ่ถามโดยไร้คำพูด

 

“ผม…ผมจะมาเล่นเน็ตต่างหาก!” ถ้อยคำหลุดออกมาโดยไม่ผ่านสมอง ซุนเสียงรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวกว่าเดิมเมื่อเผชิญกับสายตารู้ทันแต่ไม่ได้เปิดโปงออกมาของอีกฝ่าย เยี่ยชิวนั่งลงตรงที่ประจำ จากนั้นก็จัดการเปิดเครื่องตามความต้องการของซุนเสียง

 

“ขอบัตรประชาชนด้วย”

“…”

 

เมื่อจัดแจงสิ่งต่างๆ เรียบร้อย เยี่ยชิวก็ส่งบัตรประชาชนคืนให้เขา เดินนำเขาไปยังมุมมืดของร้านที่ไม่ค่อยมีผู้คน ตบลงบนคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งสองสามที

 

“เครื่องนี้แหละ ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครเห็นหรอก เกอไปทำงานก่อนล่ะ”

“เห็นผมเป็นเด็กหรือไง!” ซุนเสียงถลึงตาใส่ แล้วก็ได้เสียงหัวเราะแผ่วกลับมาเบาๆ จากนั้นเยี่ยชิวก็เดินกลับไปยังเคาท์เตอร์เช่นเดิม

 

ซุนเสียงมองซ้ายมองขวา เห็นว่าไม่มีใครจริงดังว่าก็ถอดแว่นตากับผ้าพันคอออก จากมุมนี้ ไม่รู้จงใจหรือไม่ ซุนเสียงมองเห็นบริเวณที่เยี่ยชิวอยู่ได้อย่างชัดเจน

 

ดวงตาของเยี่ยชิวจับจ้องอยู่บนหน้าจอ มือยังคงพรมลงบนคีบอร์ดอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากคาบบุหรี่ไว้อย่างหมิ่นเหม่ ซุนเสียงมองเหม่อ รู้ตัวอีกทีตอนเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหน้าเคาท์เตอร์

 

ทั้งคู่พูดคุยอะไรกันอีกสองสามประโยค เยี่ยชิวก็หัวเราะ ซุนเสียงมองนิ่ง หว่างคิ้วกดลึกลงเมื่อเห็นใครคนนั้นฉวยโอกาสตอนเยี่ยชิวเผลอแอบลูบมือเรียวสวยไปหลายที

 

ไม่รู้ตัวเลยหรือไง!

 

ตลอดเวลาที่เยี่ยชิวเข้ากะ เหตุการณ์แบบนี้วนเวียนเกิดขึ้นอีกสองสามรอบ ยิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าไหร่ สีหน้าซุนเสียงก็ยิ่งดูไม่ได้มากเท่านั้น

 

ที่จริงนี่ควรจะได้เวลานอนของนักกีฬาอาชีพแล้ว แต่หลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ซุนเสียงก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน

 

เยี่ยชิวนั่งอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งมีพนักงานในร้านอาสามาเปลี่ยนเวรแทน เจ้าตัวลุกบิดขี้เกียจทีหนึ่ง ดวงตาซึมกะทือหันมาสบเข้ากับซุนเสียงพอดี ชายหนุ่มสะดุ้ง ก่อนหันกลับไปทำทีเหมือนว่ากำลังเล่นคอมต่อ

 

ผ่านไปสักพักซุนเสียงก็แอบเหลือบมองไปที่เดิม คราวนี้เห็นเยี่ยชิวคุยกับหญิงสาวผมสั้นหน้าตาสะสวย ดูจากสีหน้าท่าทางคงสนิทสนมกันพอสมควร ซุนเสียงขมวดคิ้ว ความรู้สึกที่เหมือนก้อนเนื้อในอกถูกบีบช้าๆ จนปวดหนึบค่อยๆ ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกที

 

ดวงตาเรียวโศกบังเอิญหันมาสบตาเขาอีกครั้ง ไม่รู้ทำไมคราวนี้ซุนเสียงถึงไม่หลบ เขามองเยี่ยชิวเอ่ยลาสาวสวยคนนั้น แล้วสาวเท้าเนิบนาบมาทางเขา

 

“เหงาหรือ” เริ่มต้นด้วยประโยคกวนโมโห “อยากให้เกออยู่เป็นเพื่อนไหม”

 

ซุนเสียงไม่อยากรอให้ริมฝีปากบางเจื้อยแจ้วไปมากกว่านี้ เขากระชากคอเสื้ออีกฝ่ายลงมาใกล้ ดวงตาเยี่ยชิวเบิกกว้าง ก่อนจะใช้ความอุ่นนุ่มปิดกั้นไม่ให้มีสิ่งใดเล็ดลอดออกมา

 

ไม่หรอก ยังไม่พอ

 

เขาใช้ร่างตนเองและความมืดบดบังร่างเยี่ยชิวจากสายตาคนอื่นเอาไว้ ลิ้มรสความรู้สึกวาบหวามที่ก่อเกิดขึ้นมา มือสอดเข้าไปใต้เสื้อโค้ทของอีกฝ่าย สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิของเยี่ยชิวผ่านเสื้อตัวในบางเบา ลูบไล้ตามแผ่นหลังและสีข้างอย่างเชื่องช้า ราวกับกำลังตั้งใจจดจำทั่วทุกตารางนิ้ว

 

ถึงกระนั้น

 

ก็ยังไม่พอ

 

เขาต้องการมากกว่านี้ เพียงแค่นี้ไม่อาจบรรเทาความรู้สึกอึดอัดไร้ที่มาที่ไปนี้ได้ ต้องสัมผัสมากกว่านี้ แนบชิดมากกว่านี้ ใกล้เสียจนลมหายใจหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

 

 

“เยี่ยซิว!”

 

ร่างในอ้อมกอดเขาสะดุ้ง จากนั้นก็พยายามขืนตัวออกห่าง

 

แต่เขายังไม่อยากปล่อยมือ

 

“อื้อ…อื้อ” เยี่ยชิวส่งเสียงประท้วงในลำคอเมื่อถูกรุกรานอย่างจาบจ้วงอีกครั้ง ซุนเสียงมองสีหน้าเคลิบเคลิ้มของอีกฝ่าย

 

เขารู้ดี สิ่งที่เยี่ยชิวชอบไม่ใช่จูบของเขา แต่เป็นรสชาติของเขา

 

พอคิดถึงความจริงข้อนี้ ความอึดอัดที่เพิ่งคลายลงก็กลับมาบีบแน่นอีกครั้ง

 

“เยี่ยซิว หายไปไหนน่ะ!”

 

สิ้นเสียงตะโกน เยี่ยชิวก็ผลักเขาออกอย่างแรง ดวงตาของอีกฝ่ายหลุบลง ริมฝีปากบวมอิ่มเม้มเบาๆ ก่อนจะเอ่ยออกมา

 

“วันนี้เสี่ยวเสียงกลับไปก่อนเถอะ เกอมีธุระจะต้องทำ”

 

ซุนเสียงมองอีกฝ่ายเงียบๆ ค่อยๆ ปล่อยมือออกอย่างเชื่องช้า ใช้สายตาเจือแววตัดพ้อส่งไปให้อีกฝ่าย จากนั้นก็ลุกออกมาโดยปราศจากคำพูดใด

 

รู้ดีอยู่แล้ว เพราะเป็นอย่างนี้มาตลอด

 

 

ซุนเสียงมีความลับที่ไม่เคยบอกใคร

 

เขามีจูบแรกตอนอายุสิบแปด

 

 

ริมฝีปากสีเรื่อที่มักจะใช้คาบบุหรี่นุ่มและชุ่มชื้นเกินกว่าที่เคยคาดไว้

 

แพขนตายาวหนาระผิวแก้มขยับไหวเบาๆ เมื่อเขาส่งมอบสัมผัสหวานล้ำมากยิ่งขึ้น จมูกขนาดกำลังพอดี ใบหน้าเรียวได้รูป ซุนเสียงใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเบาๆ ที่ข้างแก้มของอีกฝ่าย รู้สึกถึงความเนียนลื่นดุจกระเบื้องเคลือบชวนให้สัมผัสซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

ลูกแก้วสีดำขลับที่หลบซ่อนอยู่ใต้เปลือกตาค่อยๆ เผยออกมา ระยิบระยับแพรวพราวเหมือนมีน้ำเอ่อคลออยู่ด้านใน ชั่วขณะนั้น หัวสมองของชายหนุ่มพลันโล่งเปล่า

 

นับแต่นั้นมา ห้วงความคิดของชายหนุ่มที่ชื่อซุนเสียง ก็เต็มไปด้วยเรื่องของเยี่ยชิว

 

 

ซุนเสียงไม่ได้ติดต่อกับเยี่ยชิวอีก

 

ไม่สิ พูดให้ถูกคือยังติดต่อกันอยู่ แต่ซุนเสียงไม่ได้ออกไปพบเยี่ยชิวอีกแล้ว

 

ซุนเสียงมองข้อความเดิมๆ ที่ส่งมาจากคนเดิม ดั่งเช่นครั้งที่แล้วๆ มา แต่กลับให้ความรู้สึกขัดหูขัดตาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

 

จวินม่อเซี่ยว : เสี่ยวเสียง เกอหิวจริงๆ นะ

 

รางกับสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงออดอ้อนเล็กๆ ของอดีตมหาเทพแห่งกลอรี่ ซุนเสียงมีใบหน้าเรียบเฉย เคาะแป้นคีบอร์ดตอบกลับไปประโยคเดียว

 

อี๋เยี่ยจือชิว : ผมไม่ว่าง

 

จากนั้นซุนเสียงก็รีบปิดหน้าต่างโปรแกรมอย่างรวดเร็วเสมือนกลัวว่าถ้าเปิดไว้นานกว่านี้ คำตอบของเขาอาจจะเปลี่ยนไป

 

พอมาสำรวจดูดีๆ แล้ว ความรู้สึกของเขาที่มีต่อเยี่ยชิวมันมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

 

รู้สึกดียามที่ถูกอีกฝ่ายสัมผัส รู้สึกดียามที่ถูกดวงตาคู่นั้นจ้องมองมา

 

เป็นความเปรมปรีย์ที่สลักลงไปถึงจิตใต้สำนึกโดยที่ซุนเสียงไม่รู้ตัว

 

ในเมื่อสัมผัสมากไปกว่านี้ไม่ได้ ซุนเสียงหักห้ามใจไม่ให้ตนออกไปเจอเยี่ยชิวอีก

 

ตอนแรกยังไม่รู้ก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อรู้แล้ว เขาไม่คิดว่าตนจะปล่อยคนคนนั้นไปได้

 

เพราะถ้าหากได้แตะต้องคนคนนั้นอีกครั้ง ได้เติมเต็มความโหยหาจากคนคนนั้นอีกครั้ง

 

 

มันคงไม่จบที่จูบอย่างแน่นอน

 

 

 

 

 

 

 

TBC

เสี่ยวซุนงอนแล้วล่ะ

Q : ไหนบอกตอนนี้ตอนจบไง
A : ทางนี้ก็อยากจะถามเหมือนกันนั่นแหละ!

 

2 thoughts on “[Fic QZGS] – Sweetaholic II (ซุนเยี่ย)

ใส่ความเห็น